Sunday, 26 March 2023

นักวิจัยค้นพบว่ามลพิษทางอากาศนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งปอดได้อย่างไร

นักวิจัยศึกษาและทำการค้นพบว่ามลพิษทางอากาศก่อให้เกิดการเกิด โรคมะเร็งปอด ได้ยังไง ซึ่งถือเป็นการศึกษาและทำการค้นพบที่เปลี่ยนความเข้าใจถึงการเกิดขึ้นของเนื้องอก โดยยิ่งไปกว่านั้นในผู้ที่ไม่เคยแม้แต่จะสูบบุหรี่เลย

เมื่อเดือน ก.ย. ทีมนักวิจัยสถาบันฟรานซิส คริก ในกรุงลอนดอน ระบุว่า มลพิษทางอากาศนำมาซึ่งการก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอดได้จริง ถึงแม้ในผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ ด้วยการกระตุ้นหรือปลุกเซลล์เก่าๆที่เสียหายขึ้นมา มากกว่าการสร้างความทรุดโทรมให้เซลล์ ตามความเชื่อเดิม

หนึ่งในผู้ที่มีความชำนาญระดับนานาชาติหมายถึงศ.จ. ชาร์ลส์ สแวนตัน ระบุว่า การศึกษาและทำการค้นพบดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วทำให้วงการแพทย์ “ไปสู่สมัยใหม่” แล้วก็บางทีอาจก่อให้เกิดการพัฒนาตัวยา เพื่อยับยั้งมะเร็งไม่ให้ก่อตัวขึ้น

ความเสี่ยงเกิดมะเร็งปอด

โรคมะเร็งปอด โดยธรรมดาแล้ว การก่อตัวของมะเร็งจะกำเนิดเป็นลำดับขั้นตอนหมายถึงเริ่มจากเซลล์ที่แข็งแรง

และหลังจากนั้นก็ค่อยๆมีการกลายพันธุ์ในระดับสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ จนถึงจุดที่แปลงเป็นเซลล์เปลี่ยนไปจากปกติ สู่เซลล์ของมะเร็ง แล้วก็เติบโตอย่างควบคุมไม่ได้

แต่แนวคิดการเกิดมะเร็งแบบนี้ มีปัญหา เพราะว่าการกลายพันธุ์เป็นเซลล์ของมะเร็งได้เกิดขึ้นในเนื้อเยื่อที่แข็งแรง กลับแปลงเป็นว่าตัวการของมะเร็ง รวมทั้งมลพิษทางอากาศ ไม่ได้สร้างความย่ำแย่ต่อดีเอ็นเอ แม้กระนั้นเป็นการกระตุ้นเซลล์ที่เสียหายให้กลับมาทำงานอีกทีมากกว่า

ศ.จ. สแวนตัน ระบุว่า “การเสี่ยงกำเนิดโรคมะเร็งปอดจากมลพิษทางอากาศ มีน้อยกว่าการสูบบุหรี่ แม้กระนั้นเพราะว่ามนุษย์ควบคุมการหายใจของตนเองไม่ได้ แล้วก็ทั้งโลก ผู้คนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัยจากมลพิษทางอากาศมากขึ้นกว่า การสูดสารเคมีที่เป็นพิษจากควันที่เกิดจากบุหรี่”

แล้วเกิดอะไรขึ้น?

นักวิจัยซึ่งทำงานอยู่ที่มหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน หรือยูซีแอล ได้ศึกษาและทำการค้นพบหลักฐานถึงแนวคิดใหม่ถึงการเกิดมะเร็ง โดยยิ่งไปกว่านั้นในบุคคลที่ไม่สูบบุหรี่ โดยระบุว่า ในความเป็นจริงแล้ว ความทรุดโทรมได้ฝังตัวอยู่ในดีเอ็นเอของเซลล์ ในระหว่างที่พวกเราเติบโตแล้วก็แก่มากขึ้น

มลพิษทางอากาศ

แม้กระนั้นควรจะมีสิ่งที่มากระตุ้นความเสียหายในดีเอ็นเอของเซลล์ก่อน มันถึงจะกลายเป็นเซลล์ของมะเร็งได้

การศึกษาและทำการค้นพบนี้ มาจากการวิเคราะห์ว่าเพราะอะไรบุคคลที่ไม่สูบบุหรี่ถึงเป็นโรคโรคมะเร็งปอด แน่ๆว่า มูลเหตุจำนวนมากของผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดมาจากการสูบยาสูบ แม้กระนั้นก็พบว่า 1 ใน 10 ของผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดในสหราชอาณาจักร เกิดขึ้นจากมลพิษทางอากาศ

ทีมนักวิจัยของสถาบันฟรานซิส คริก ให้ความสำคัญกับอนุภาคฝุ่นหลังเที่ยงวัน 2.5 (PM 2.5) ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเส้นผมของคนเรา

แล้วก็เมื่อจัดการทดลองในสัตว์แล้วก็มนุษย์อย่างละเอียด พวกเขาพบว่า สถานที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง จะพบผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดที่ไม่ได้เกิดจากการสูบยาสูบ ในรูปร่างที่มากขึ้น

โดยเมื่อสูดฝุ่นพีเอ็ม 2.5 เข้าไปภายในร่างกาย จะกระตุ้นให้หลั่ง “อินเทอร์ลิวคิน 1 เบตา” ออกมา เป็นการตอบสนองทางเคมี จนถึงก่อให้เกิดอาการอักเสบ จนถึงร่างกายต้องกระตุ้นเซลล์ในปอดให้เข้ามาซ่อม

แต่เซลล์ปอดนั้น ทุกๆ600,000 เซลล์ ในบุคคลอายุราว 50 ปี จะมีขั้นต่ำหนึ่งเซลล์ ที่สุ่มมีโอกาสเสี่ยงต่อการกลายพันธุ์เป็นเซลล์ของมะเร็งได้ ซึ่งธรรมดาแล้ว ร่างกายจะกำเนิดเซลล์ที่สุ่มเสี่ยงนี้ เมื่อมนุษย์อายุมากขึ้น แต่เซลล์จะยังดูแข็งแรงอยู่ ตราบจนกระทั่งจะถูกกระตุ้นให้กลายพันธุ์

การศึกษาและทำการค้นพบที่สำคัญยิ่งกว่าหมายถึงนักวิจัยสามารถยับยั้งการก่อมะเร็งในหนูที่ปลดปล่อยให้พบเจออยู่ในสถานการณ์มลพิษทางอากาศ ด้วยการใช้ตัวยาเพื่อยับยั้งการโต้ตอบทางเคมีดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว ผลลัพธ์ก็เลยถือเป็นการศึกษาและทำการค้นพบครั้งใหญ่ 2 ครั้งซ้อนคือเพิ่มความเข้าใจถึงผลพวงของมลพิษทางอากาศ แล้วก็หลักการกำเนิดมะเร็งภายในร่างกาย

ดร. เอมิเลีย ลิม หนึ่งในนักวิจัย ซึ่งประจำอยู่ที่คริกแล้วก็ยูซีแอล ระบุว่า โดยธรรมดาแล้ว บุคคลที่ไม่เคยสูบบุหรี่เลย กลับเป็นโรคโรคมะเร็งปอด ชอบไม่ทราบถึงมูลเหตุ

“ฉะนั้น การให้เบาะแสพวกเขาถึงมูลเหตุการเกิดมะเร็ง ก็เลยเป็นสิ่งสำคัญมาก” แล้วก็ “ยิ่งสำคัญมากขึ้น เมื่อประชากร 99% ในโลก ล้วนอาศัยอยู่ในสถานที่ที่ระดับมลพิษทางอากาศ สูงกำเนิดกว่าข้อเสนอแนะขององค์การอนามัยโลก”

คิดเรื่องมะเร็งเสียใหม่

ผลลัพธ์ของการทดสอบนี้ ยังทำให้เห็นว่า การกลายพันธุ์ในเซลล์เพียงอย่างเดียว ไม่ใช่ปัจจัยก่อให้เกิดการเกิดมะเร็งเสมอ แต่อาจมีปัจจัยอื่นเสริมด้วย

ศ.จ. สแวนตัน ระบุว่า การศึกษาและทำการค้นพบที่น่าตื่นเต้นที่สุดในห้องทดลองหมายถึง“แนวคิดการเกิดเนื้องอกที่ต้องหันกลับมาทบทวนเสียใหม่” แล้วก็นี่บางทีอาจก่อให้เกิด “สมัยใหม่” ของการปกป้องมะเร็งในระดับโมเลกุล เป็นต้นว่า แนวคิดที่ว่าถ้าหากคุณอยู่ในสถานที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง คุณอาจทานยาต่อต้านมะเร็งได้ เพื่อลดการเสี่ยง

ศ.จ. สแวนตัน บอกกับบีบีซีว่า พวกเราบางทีอาจต้องพิจารณาถึงหลักการที่ว่า การสูบยาสูบนำมาซึ่งการก่อให้เกิดมะเร็ง ด้วยซ้ำ แล้วก็ความจริง แนวคิดที่ว่า ดีเอ็นเอกลายพันธุ์นั้นน้อยเกินไปที่จะนำมาซึ่งการก่อให้เกิดโรคมะเร็ง เพราะว่าควรจะมีปัจจัยอื่นกระตุ้นให้เซลล์ของมะเร็งเติบโต มีการนำเสนอมาตั้งแต่ปี 1947 แล้ว โดย ไอแซค เบเรนบลูม

อย่างไรก็แล้วแต่ มิเชลล์ มิตเชลล์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยมะเร็งแห่งสหราชอาณาจักร ย้ำว่า เดี๋ยวนี้ “ยาสูบยังเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคมะเร็งปอด” แต่ “วิทยาศาสตร์ อาศัยการทำงานอย่างหนักนับเป็นเวลาหลายปี แล้วก็กำลังเปลี่ยนแปลงแนวคิดว่ามะเร็งเกิดขึ้นได้ยังไง แล้วก็ในเวลานี้ พวกเรามีความรู้ความสามารถถึงสิ่งที่เป็นตัวกระตุ้นให้กำเนิดมะเร็งได้มากขึ้นแล้ว”

แล้วโรคมะเร็งปอดพบเห็นได้มากเพียงใด ชมรมอเมริกันแคนเซอร์ ระบุว่า โรคมะเร็งปอดทั้งยังแบบประเภทเซลล์เล็ก แล้วก็ประเภทไม่ใช่เซลล์เล็ก เป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดอันดับ 2 ในสหรัฐฯ ในขณะที่ในเพศชายนั้น มะเร็งที่พบบ่อยที่สุดคือโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ส่วนหญิงนั้น จะเป็นโรคมะเร็งเต้านม

ทางชมรมประเมินว่า ปี 2022 พบผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดมากขึ้น 236,740 คน แล้วก็เสียชีวิต 130,180 คน โดยผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดจำนวนมาก เป็นผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป แม้กระนั้นก็มีโอกาส แม้ว่าจะน้อยมากๆที่ประชาชนอายุ ชต่ำกว่า 45 ปี จะเป็นโรคโรคมะเร็งปอด โดยอายุเฉลี่ยของผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดอยู่ที่ 70 ปี

โรคมะเร็งปอดยังคิดเป็นสาเหตุการตายจากโรคมะเร็ง เกือบจะ 25% ของผู้ตายจากมะเร็งทั้งหมด

สำหรับประเทศไทยนั้น นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ พูดว่า โรคมะเร็งปอดเป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดทั้งโลก สำหรับประเทศไทยโรคมะเร็งปอดนับว่าเป็น 1 ใน 5 ของมะเร็งที่มักพบ ซึ่งพบบ่อยเป็นอันดับ 2 ในผู้ชาย แล้วก็อันดับ 5 ในผู้หญิง แต่ละปีจะมีผู้ป่วยรายใหม่ราว 17,222 ราย เป็นเพศชาย 10,766 ราย แล้วก็ผู้หญิง 6,456 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ตายราว 14,586 ราย หรือคิดเป็น 40 รายต่อวัน

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคมะเร็งปอดคือการสูบยาสูบหรือการได้รับควันที่เกิดจากบุหรี่มือสองแล้วก็การสัมผัสสารก่อมะเร็ง เป็นต้นว่า ก๊าซเรดอน แร่ใยหิน รังสี ควันธูป ควันจากท่อไอเสีย แล้วก็มลพิษทางอากาศ โดยยิ่งไปกว่านั้นฝุ่นพีเอ็ม 2.5

การสูดสารเคมี